ครั้งแรกกับการไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่น ในต้นเดือนมีนาคม การไปเยือนครั้งนี้ถือว่าประทับใจในคำร่ำลือของคนญี่ปุ่นหลายอย่างเลยทีเดียว ทั้งระเบียบวินัย และบ้านเมือง โดยเฉพาะการข้ามทางม้าลายที่นี่แตกต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิง ที่สำคัญห้องน้ำที่นี่สะอาดเกือบทุกที่ แม้แต่ห้องน้ำสาธารณะ ถึงกับวางแผนว่าจะต้องกลับไปรอบสองให้ได้
สำหรับการไปครั้งนี้ ผมไป 7 วัน 6 คืน โดยไม่ได้เน้นเที่ยวโปรแกรมแน่น เน้นสบายๆ สไตล์พักผ่อน โดยได้ลงที่สนามบิน Chubu จูบุ ก่อนแล้วนั่งรถไฟใต้ดิน เข้าไปในเมือง นาโงย่า ลงที่สถานีซาคาเอะ ผมพักแถวๆนั้นครับ
วันแรก ที่มาถึงก็รับกับความเย็น 9 องศาไป ถือว่ากำลังสบาย ไปทางหนาวครับ วันแรกมาถึงก็เวลาเย็นแล้ว จึงได้เดินเล่นในเมืองนาโกย่า และหาอะไรกินที่ ช้อปปิ้งใต้ดิน, ซะกาเอะ แทน โดยจุดแรกที่เดินเล่นกันคือแถวๆ หอคอยนาโงย่าทีวีทาวเวอร์ นั่นเอง
และที่พลาดไม่ได้คืออาหารใน Family Mart ครับ Family Mart ที่นี่เยอะกว่า เซเว่น อิเลฟเว่นบ้านเราครับ คิดอะไรไม่ออกก็ Family Mart นี่ล่ะ เข้าออกจนจำเสียงประตูได้ครับ
และมื้อแรกของผมที่นี่คือ บะหมี่เย็นครับ เดินเลือกร้านที่จะกินด้วยกัน ก็มาลงเอยที่ร้านราเม็งร้านนึงใน Shopping mall รถไฟใต้ดิน เข้าไปนั่งปุ๊บเมนูอาหารมีแต่ภาษาญี่ปุ่น งงสิครับ รูปก็ไม่มีให้ชี้ จึงเดินไปที่หน้าร้านแล้วชี้ไปที่บะหมี่เย็นนี่ล่ะ และที่ชอบคือ แทบจะทุกร้านที่กินจะเสิร์ฟเราชาเขียวร้อนให้ดื่มฟรี
วันที่สอง ตื่นมาด้วยความหนาว 4 องศา และมาพร้อมบรรยากาศฝนโปรย ทั่วนาโงย่า วันนี้ได้นั่งรถไฟใต้ดินมาสองสถานีก็ ไปถึงปราสาทนาโงย่าครับ ข้างในสูงมาก และสวยมาก มีแต่ของโบราณและมีเรื่องราวในปราสาทนี้ทั้งนั้นครับ ใครที่ชอบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์นาโงย่าน่าจะชอบที่นี่ครับ
หลังจากนั้น ก็ไปไหว้ศาลเจ้าโอสึคันนง และหาอะไรกินแถวนั้น ต่อด้วยเดินช้อปปิ้งที่โอสุ(Osu) คนที่นี่ก็พอสมควร มีของให้ช้อปปิ้งหลากหลาย ส่วนใหญจะเป็นสินค้าเกี่ยวกับแฟชันครับ ได้ของโปรดกลับมาบ้านเพียบโดยเฉพาะ โมเดล ดราก้อนบอล ของผมถูกใจยิ่งนัก
และพอกลางคืนผมจะมาเดิน Don Quijote ดองกี้ ช้อปปิ้งอีกแล้ว ของที่นี่เยอะมากครับ มีแทบจะทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง เสื้อผ้า และอาหาร อากาศตอนกลางคืนหนาวมาก เพราะลมแรงมากและเย็นจริงๆครับ และที่นี่ TAX FREE สำหรับนักท่องเที่ยวด้วยครับ(ส่วนใหญ่ที่ผมไปมา TAX Free ทั้งนั้นครับ)
วันที่สาม-สี่ ตื่นมาด้วยฟ้าแจ่มใส วันนี้ไม่ได้มีแพลนไปไหนสำคัญ เดิน กิน เที่ยว เล่นชิลๆ ในเมือง ครับ ด้วยอากาศที่หนาวเย็น และ ไม่พลาดมาถึงญี่ปุ่น ลองกินทาโกะยากิ สิครับ ทาโกะร้านนี้อร่อยมาก ผมกิน แถวๆ Osu ครับ
วันต่อมา วันนี้เดินทางไป Takayama ครับ โดยนั่งรถไฟ JR Pass จาก Nagoya Station ครับ คนละประมาณ 5,000 Yen กว่าๆ ครับ รถไฟที่ไม่ได้จองจะอยู่ขบวนหลังๆ ครับ แอบขึ้นผิดขบวนไปขึ้นที่เขาจองล่วงหน้าไว้ หน้าแตกสิเรา ฮ่าๆๆๆ พร้อมกับสัมภาระทั้งหลายทั้งหมด ขึ้นรถไฟครับ สังเกตจากกระเป๋าได้
นั่งมา 3 ชั่วโมงกว่า ได้มาบ้านนอกสมใจๆๆๆ พร้อมกับฝนโปรย และอากาศเพียง 4 องศา เท่านั้น เป็นเมืองที่น่าอยู่จริงๆ สงบ และ เงียบมากๆ ครับ พอถึงที่พัก ที่พักที่นี่จะสไตล์ญี่ปุ่นเลยครับ ตามรูปเลย แล้วก็พักผ่อน พร้อมปั่นงานนิดหน่อยก่อนจะออกไปเดินเล่นท่ามกลางฝนโปรย
วันต่อมา วันนี้ผมออกมาขึ้นรถบัส 1 ช.ม. ที่จองล่วงหน้าไว้เมื่อวาน เพื่อไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่รอคอย พอรถผ่านเห็นเศษหิมะกองๆ ก็ดีใจตื่นเต้นเป็นที่สุด เพราะชอบหิมะมากๆ บ้านเราไม่มีนี่เนอะ ก็เห่อเป็นธรรมดา แต่พอถึงชิราคาวาโกะ เห็นหิมะขาวๆ นี่เป็นปลื้มที่สุด
จากนั้นใครจะขึ้นไปชมวิวหมู่บ้านจากมุมสูง ก็เสียเงินอีก 200Yen ขึ้นรถบัสส่งให้เห็นหมู่บ้านด้านล่างครับ สวยมากๆๆครับ (ลงอีก 200Yen) 
ถ่ายรูปนิดๆ หน่อยก็ลงมาเดินเล่นข้างล่างต่อ ถึงเที่ยงครับ คนเริ่มเยอะ โชคดีที่มาแต่เช้าครับสักพักจึงนั่งรถกลับ Takayama และก็เดินชมเมือง Takayama และวันนี้ Takayama หิมะตกด้วยนิดหน่อย ช่างโรแมนติกเสียนี่กระไร
วันต่อมาก็กลับแล้วครับ แล้วทริปนี้ ผมได้ใช้ เปิดโรมมิ่ง ของทรู 4G เชื่อมสัญญาณกับ Docomo ใช้เน็ตไม่อั้น เพียงวันละ 150.- ครับ เน็ตไม่รั่ว ความเร็วคงที่ สัญญาณดีทั่วญี่ปุ่นครับ สามารถแจ้งกับทรูได้เลยครับ ไปถึงก็จับสัญญาณใช้ได้เลย
และได้พบกับหิมะเล็กๆน้อยๆปลิวลงมาจากฟากฟ้าให้ได้ชื่นใจ
